นมหนูหอมดูน่าอร่อย ขุนเขาอดใจไม่ไหวแล้วที่จะลงลิ้นชิม
ข้าวหอมจ้องมองคนตัวโตที่ดึงเสื้อยืดสีขาวออกทางหัวตัวเองโยนไปข้างเตียงให้ท่อนบนเปลือยเปล่าราวกับว่าไม่อยากให้ข้าวหอมเสียเปรียบหลังจากถูกถอดเสื้อนอนตัวเก่งออก
“หอม” ขุนเขากระซิบเรียกยามที่กดริมฝีปากกับไหล่แคบ ไม่รู้ว่าเรียกชื่อหรือชมกลิ่นหอมละมุนจากผิวนุ่มกันแน่
ครีมอาบน้ำของข้าวหอม หอมจนน่าจับมาเลียไปทั้งตัว
“อะ อือ พี่ขุน” ข่าวหอมเริ่มหายใจหอบแรงขึ้นเมื่อลิ้นที่ทั้งร้อนทั้งชื้นหมุนวนบนยอดอกข้างซ้าย หัวใจข้าวหอมเต้นแรงจนขุนเขารู้สึกชัดผ่านปลายลิ้น โดยเฉพาะเมื่อมือหนาล้วงเข้าไปในกางเกงผ้านิ่มแล้วรูดรั้งแท่งเนื้อไหวต่ออารมณ์ของข้าวหอมซึ่งเริ่มแข็งตัวจากการปลุกปั่นแล้วเช่นกัน
มือหนาใหญ่กำไว้หลวม ๆ รูดขึ้นรูดลง ใช้นิ้วโป้งขยี้ส่วนหัวอยู่หลายทีจนใบหน้าน่ารักต้องพิงซบกับบ่ากว้าง ส่งเสียงร้องครางแผ่ว ๆ ปนลมหายใจให้ได้ยิน
“เคยทำให้ตัวเองไหม”
“เคย ..คะ คิน” การได้ยินชื่อผู้ชายคนอื่นในสถานการณ์แบบนี้มันชวนให้หงุดหงิดยิ่งกว่าอะไร แม้จะเป็นเพื่อนสนิทน้องมันก็เถอะ
ขุนเขาหยุดทำทุกอย่าง นอกจากใช้มือใหญ่ ๆ ร้อน ๆ กำส่วนอ่อนไหวของน้องไว้ในมือ ยืดตัวออกมาจ้องมองตากลมโตที่กำลังหยาดเยิ้มจนเหมือนข้าวหอมจะทรงตัวนั่งอยู่ได้อีกไม่นาน
“เล่าครับ เล่าให้ละเอียด”
“ตอนอยู่มอห้าหนูรู้สึกแปลก ๆ ตอนเช้าตื่นมาละ อือ ละกาวเกงนอนมันตุง ๆ หนูไม่กล้าถามใครก็เลยถามคินกับแป้งนุ่ม คินก็เลยส่งลิ้งคลิปมาให้หนู เป็นผู้ชายตัวผอม ๆ ผอมกว่าหนูอีกแต่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า เขาอยู่บนเตียงในห้องคนเดียว เขาก็รูด ๆ ช่วยตัวเอง หนูก็เลยพยายามทำตาม เพราะอยากให้หาย ให้มันแฟบลงเหมือนเดิม” ข้าวหอมเล่าละเอียดจริงเสียงสั่น
“แต่ แต่ทำแล้วมันก็ไม่ค่อยได้อะพี่ขุน หนูพยายามเลียนแบบแล้วก็มีน้ำใส ๆ ออกมา พยายามให้น้ำขุ่น ๆ มันออกมาบ้างก็ไม่ค่อยออก เวลาเป็นแปลก ๆ หนูก็พยายามทำตามคลิปนั้นทุกที แต่ได้น้ำขุ่นสองครั้งเอง ได้นิดเดียวด้วย สงสัยหนูทำไม่ค่อยถูก แต่จะไปถามมากกว่านั้นอีกก็เขิน”
“คินแค่ส่งคลิปให้ลองทำตามใช่ไหม”
“อื้อ แค่นั้นแหละ คลิปเดียวด้วย”
ขุนเขาค่อยกลับมายิ้มต่อได้หน่อย ถือว่าอนาคินมันเป็นเด็กฉลาดเลือกส่งคลิปคนช่วยตัวเองให้หนูหอมแค่นั้น คงขี้เกียจตอบคำถามเพิ่ม
ดีแล้วล่ะ ถ้ามีคนอื่นมาจับ มาสอนหนูหอมแบบนี้ เพราะน้องไม่รู้ว่าควรทำยังไงช่วงเริ่มเป็นวัยรุ่น แล้วตนไม่ได้อยู่ในชีวิตน้องตอนนั้นให้น้องคอยถาม ให้ตนคอยสอนก็คงจะยิ่งรู้สึกแย่กับตัวเอง
“พี่ขุน หนู หนูน่ะเช้าวันที่เป้ามันไม่แฟบ ตอนหลับหนูฝันถึงพี่ขุนนะ บางคืนก็ตอนพี่เล่นบาสแล้วถกเสื้อเช็ดหน้า บางทีก็อะไรไม่รู้หนูจำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ว่ามีพี่ขุน” ข้าวหอมรีบเล่าละเอียดกว่าเดิมต่อเพราะเห็นขุนเขาทำหน้าดุไม่หาย
แล้วอาการของคนฟังนั้นก็หูแดงจัดทั้งที่ยิ้มกว้างออกมาจนตาหยีเป็นประกายจ้องร่างผอมตรงหน้า
โอเค ขุนเขาแพ้ แพ้ข้าวหอมเต็ม ๆ
“หอม หนูน่ารักเกินไปแล้วรู้ไหมครับ”
เวลาแบบนี้พี่ขุนพูดเพราะทุกคำ ข้าวหอมทั้งชอบ ทั้งรู้สึกว่าพี่ขุนร้ายกาจ
แต่ก็ชอบมากกว่า ชอบพี่ขุนที่สุด
“พ พี่ขุน อื้อ พี่ขุนจ๋า” เสียงแผ่วๆ ร้องเรียก อย่างไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับตัวเองอย่างไรดี
ร่างผอมที่เดิมผิวขาวจัดตอนนี้กำลังแดงระเรื่อไปทั้งตัว หายใจระรัวอยู่ตรงหน้า
ข้าวหอมเป็นเด็กน่ารัก และตอนนี้ก็น่ารังแกมากด้วย
ขุนเขาเองก็กำลังคิดอย่างหนักเช่นกัน
ตอนนี้ร่างสูงใหญ่รู้สึกว่าตนกำลังมาถึงทางแยกที่ไม่อาจย้อนกลับ
ทางแรกคืออดทนและพาเด็กตัวผอมที่เพิ่งอายุครบ20 ไปไม่กี่วัน ผ่านค่ำคืนของครั้งแรกนี้ไปอย่างทะนุถนอมด้วยความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุดของตัวเอง
ทางที่สอง คือเต็มที่กับคืนนี้ให้มันถึงที่สุด ก็ตัวขุนเขาเองอดทนมาตลอดสี่ห้าปีจนข้อมือแข็งแรงแล้วไม่ใช่เหรอ
ยิ่งหลังจากได้แต่งงานกัน ขุนเขาก็ยิ่งได้ใช้ความอดทนมากเป็นพิเศษ
ยามที่ใคร่ครวญคิด มือหนาซึ่งหยาบกร้านตามประสาคนทำงานในไร่ก็ไล้ลูบเรียวขาและเอวบางคอดไม่ละมือ
“พี่ขุน หนู หนูอยากทำ”
น้ำเสียงสั่นกระเส่าที่ได้ยินทำให้ขุนเขาตัดสินใจเลือกแล้ว
เขาอดทนมาแล้วตั้งสี่ห้าปี คืนนี้เลิกอดทนสักคืนจะเป็นอะไรไป
“…” เสียงซิปกางเกงยีนส์ดังขึ้นในความเงียบ ข้าวหอมขบบดปากเอิบอิ่มของตัวเองเข้าหากัน
“พี่ขุน..”เสียงหวานที่พร่าแตกดังขึ้นปนเสียงลมหายใจหน่วงหนัก มือผอมบีบกล้ามแขนของคนตัวโตไว้จนแน่น
“พี่ พี่ขุน”
“หืม”
“พี่ขุน คือ คือหนูไม่เคยทำ คือ หนูอาจจะตกใจแล้วก็มีโวยวายบ้างนะ”
“…”
“แต่ แต่พี่ห้ามหยุดทำนะ”
ฟังถึงตรงนี้แล้วขุนเขาก็กระตุกยิ้มมุมปาก มือร้อน จากอุณหภูมิในร่างที่พุ่งสูงขึ้น แตะไต่ไปตามหลังคอของข้าวหอมเชื่องช้า นิ้วโป้งลูบปากอิ่มช่างเจื้อยแจ้วที่น่าย้ำจูบอีกหลาย ๆ หน
“ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ไม่หยุดทำหนูแน่ ๆ “
และขุนเขาไม่ใช่คนผิดคำพูด โดยเฉพาะในเวลานี้
ริมฝีปากหยักบางของขุนเขาไล่ขบจูบไปทั่วผิวขาวนุ่มของข้าวหอม ขณะนี้ก็วนย้ำจูบไม่ละลิ้นห่างไปไหนแม้สักนิดอยู่รอบยอดอกสีหวาน
ที่ให้ความรู้สึกหวานติดปลายลิ้นยิ่งกว่าสีสวยๆ
ข้าวหอมหอบหายใจถี่ขึ้น แรงกระตุ้นจากลิ้นชื้น ๆ ที่ทั้งดูดทั้งเลียแผ่นอกตัวเองทำให้ร่างผอมแอ่นแผ่นอกขึ้นรับอย่างไม่รู้ตัว
เหมือนสะโพวกอวบที่กำลังถูกรังแกจากมือใหญ่ ๆ ทั้งสองข้างที่นิ้วยาว ๆ ทั้งบีบขย้ำก้นขาว ทั้งรูดทั้งดึงส่วนไวต่ออารมณ์สีอ่อนของข้าวหอมไม่หยุด
ต้องเตรียมให้พร้อมเท่าที่ทำได้ ตอนไม่ยั้งมือจะได้ไม่รู้สึกผิดมาก ขุนเขาคิดในใจตัวเองเงียบ ๆ แต่แสดงออกทางที่หน้าหล่อเหลาที่เคล้าความกระหายเป็นอย่างดี
“เสียวไหม” เอ่ยหลังละริมฝีปากออกจากแผ่นอกบางของข้าวหอมที่ยามนี้เริ่มบวมแดง
“หนะ หนู.. ” ข้าวหอมทั้งเขินทั้งอาย ร่างกายรู้สึกไประดับร้อยแล้ว แต่มาโดนถามให้พูดตรงยิ่งอ้ำอึ้งพูดไม่ออก
“ถ้าหนูเสียว หนูต้องบอกพี่มาตรง ๆ เลยรู้ไหมครับหอม พี่อยากฟัง” ขุนเขาเอ่ยบอกเสียงพร่า ยามกดจูบ ขบเบา ๆ กับเนื้อน่องขาว
ค่อย ๆ บอก ค่อย ๆ สอนน้องไปทีละนิด
มือหนาคว้าขวดเจลสีสวย บีบชโลมมันทั่วนิ้วยาวทั้งสองนิ้วของตัวเอง
ลูบวนชิดผนังอ่อนนุ่มค่อย ๆ กดปลายนิ้วผ่านเข้าไปในร่างกายนุ่มนิ่มที่กำลังร้อนตัดกับความเย็นของเจล
“อึก พี่ขุน ฮึก หนู หนู”
“เสียวเหรอครับ”
“อื้อ อือ หนูเสียว ฮึก เสียวพี่ขุนนิ้วยาว เสียว เย็น” ข้าวหอมพอถูกขอให้บอก ก็ร่ายให้ฟังหมดทั้งที่ตัวเองหายใจถี่เจือเสียงคราง แล้วนั่นมันก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ขุนเขาเข้าไปใหญ่
“แล้วเจ็บไหมครับ” ถามแต่นิ้วยาวก็จ้วงเข้าจ้วงออกอย่างไม่คิดจะหยุด ขุนเขาประนีประนอมได้เท่านี้แหละ
ถึงตกลงกับตัวเองว่าจะไม่อดทน
แต่ถ้าทำตัวใจร้าย หิวโหยเกินไปจนข้าวหอมได้เจ็บ นึกเข็ดขึ้นมาจะทำหนที่สองเร็ว ๆ นี้ก็ไม่ได้น่ะสิ
ครั้งแรกต้องน่าจดจำหน่อย อย่างน้อยก็ลดทอนความเจ็บให้ลูกสะใภ้ของแม่เท่าที่ทำได้
“มันแปลก อะ เจ็บ อ๊ะ เสียว อื้อ ไม่ ๆ ” เสียงคราวแผ่ว ๆ นั่นยิ่งทำให้ขุนเขาความอดทนติดลบจนไม่เหลือ หมุนควานนิ้วหาจุดที่ข้าวหอมจะเสียวที่สุดเจอให้ไว ๆ
การขยับนิ้วที่รีบร้อนนั่นทำเอาร่างผอมบางเสียววูบวาบร้อนไปทั้งตัวจนต้องหุบขาเข้าหากัน มือหนาจัดการด้วยการยกข้างหนึ่งพาดบ่าตัวเองไปเสียดื้อ ๆ
“พ พี่ อึก อ๊ะ …” เสียงร้องที่ต่างไปพร้อมทั้งสะโพกอวบที่ขยับตามนิ้วยาวอย่างไม่รู้ตัวทำให้ขุนเขาแสยะยิ้ม
นิ้วถูกดึงออก เปลี่ยนมาคว้าเจลกลิ่นพีชหอม ๆ ขวดเดิม
ขุนเขาหยุดลังเลใจเล็กน้อยว่าจะใส่ถุงยางดีไหม แต่ถ้าจะไม่เนื้อแนบเนื้อกับคนที่แต่งงานกันแล้วจะไปทำกับใครที่ไหนได้อีก
พอคิดแบบนั้นในเสี้ยววินาทีแห่งความต้องการ เจลล่อลื่นก็ถูกชโลมจนทั่วแท่งเนื้อร้อนไปหมดแล้ว
“หอมครับ” ขุนเขาเอ่ยเรียกอีกคนที่นอนกัดนิ้วตัวตาปรืออยู่
“หอม” ขุนเขาไม่ใช่คนไร้มารยาท อย่างไรก็อยากให้ทักทายกันก่อน
“…” ข้าวหอมหน้าแดงกล่ำยิ่งกว่ามะเขือเทศในไร่ เมื่ออะไรในเป้ากางเกงของพี่ขุนที่ตุงล่อตาให้เสมองในบางทีตอนนี้โตเต็มตัวอวดอยู่ตรงหน้า
แท่งเนื้อร้อนขนาดที่ทำให้คนเด็กกว่าหายใจติดขัดกำลังถูกเจ้าของมันจับมือผอมของข้าวหอมให้เข้ามาใกล้
“ค่อย ๆ จับ จะได้คุ้นเคย” ขุนเขาสอนอย่างใจเย็นด้วยเสียงแหบกระเส่า ตาเรียวคมเป็นประกาย เลียริมฝีปากตัวเองอย่างมันเขี้ยว เมื่อข้าวหอม หายใจหอบ จ้องมองด้วยสีหน้าที่โคตรจะยั่วยวน
ขุนเขาแทบไม่ไหวแล้ว แต่ก็อยากจะเห็นภาพนี้เป็นการส่วนตัว เป็นความกามส่วนตัวที่เคยคิดจินตนาการการคนเดียวเงียบ ๆ อยู่หลายครั้ง
ไม่ต้องให้น้องชายในสายเลือดมาด่า ขุนเขาก็ยอมรับว่าตัวเองมันตาลุงเฒ่าหัวงู ไอ้ที่น้องชายค่อนขอดว่ามือถูกใช้เสียดสีจนด้านหมดแล้ว ตนยอมรับ
มือผอมแตะลงไปตรงส่วนปลายใหญ่โต แค่นั้นขุนเขาก็หลุดครางในลำคออย่างพอใจ เป็นสัมผัสจากมือคนอื่นในรอบหลายปี
ไม่แปลกที่จะรู้สึกมาก มือข้าวหอมนุ่ม และเพราะมันคือมือของข้าวหอมเขายิ่งรู้สึกมากเป็นพิเศษ
สัมผัสจากคนที่ขุนเขารัก
“มะ มันจะเข้าไปหมดนี่เลยเหรอ” ข้าวหอมกลืนน้ำลายอึก ความร้อนและอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้าทำให้คิดอะไรไม่ค่อยออก แต่พอจะคาดเดาได้ว่าจุกแน่ ๆ
“ครับ หมดเลย”
“หนะ หนู…”
“หนูเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วครับ”
“อะ” พิธีการทักทายกันครั้งแรกเกิดขึ้นสมใจขุนเขาแล้วและควรผ่านไปเสียที
ข้าวหอมถูกดึงมาจูบแรง ๆ อีกที ขณะที่กำลังมัวเมากับรสจูบนั้นความรู้สึกร้อน ๆ ก็เวียนวนอยู่ไม่ห่างตัว
“อื้อ” ก่อนจะทำให้ทั้งร่างผอมสะดุ้งเฮือกเมื่อมันกดเข้ามา มันทั้งร้อนและใหญ่ มันเข้ามาลึกขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความรู้สึกที่ทำให้ข้าวหอมทั้งเจ็บทั้งจุก ก่อนจะหยุดลง
ข้าวหอมคิดว่ามันถึงที่สุดแล้ว ทว่ามีแค่ขุนเขาที่รู้ว่ามันเพิ่งผ่านเข้าไปแค่ครึ่งเดียว
“อึก …อะ” ริมฝีปากอิ่มแดงช้ำ ส่งเสียงที่ฟังยากว่ากำลังสุขสมหรือทรมาน แต่ดวงตากลมโตเยิ้มหยดนั้นบอกชัดว่ากำลังรู้สึกร่วมมาก ๆ ไม่ต่างจากที่ขุนเขารู้สึกตอนนี้
มือหนาเสนผมซึ่งตกละหน้าที่ตอนนี้เปียกชื้นเหงื่อไปหมดของตัวเองขึ้นอย่างลวก ๆ เผยให้เห็นโครงหน้าคมสันหล่อเหลาที่ข้าวหอมตกหลุมรักมาแสนนาน
ยิ่งในเวลานี้ดวงตาเรียวคมเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าทั้งดุ ทั้งเกรี้ยวกราดและเชื้อเชิญ ข้าวหอมก็ยิ่งรู้สึกว่าพี่ขุนเขานั้นโคตรหล่อ
ถึงจะทั้งเจ็บทั้งจุก ข้าวหอมก็คิดว่ามันคุ้มแล้ว
“อ๊ะ” แล้วความเคลิบเคลิ้มก็ถูกรังควานเมื่อสะโพกแข็งแรงกระแทกเข้ามาอีกทีจนส่วนที่ค้างครึ่งอยู่เข้ามาจนมิด
ข้าวหอมได้แต่อ้าปากพ่นลมหายใจร้อน พูดอะไรไม่ออก แล้วภาวนาว่า อย่าให้อะไรใหญ่ ๆ นั่นเข้ามาลึกกว่านี้เลย
คำภาวนาเป็นจริงแต่มันกลับยิ่งทำรู้สึกมากกว่าเดิม เมื่อเพื่อนใหม่ที่พี่ขุนเพิ่งพามาให้หนูหอมจับมือด้วย กำลังถูกชักออก แล้วกดย้ำเข้ามาใหม่
เริ่มจากช้า ๆ อยู่สองสามครั้ง มันก็เร็วขึ้นกระแทกเข้ามาหนักขึ้น เน้นย้ำจุดที่ทำเอาข้าวหอมเสียวมวนท้องยิ่งกว่าขึ้นเล่นรถไฟเหาะ ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนขาสั่น
“พี่ ขะ ขุน หยุด งื่อ พอ อ๊ะ พอแล้ว” ข้าวหอมร้องออกมา เพราะเสียวไปทั้งตัว ขุนเขากระตุกยิ้ม
หอมบอกไว้แล้วนี่ ว่าจะมีโวยวายบ้างแต่ห้ามหยุด
และต่อให้ไม่ได้บอกแบบนั้น ขุนเขาก็ไม่คิดจะหยุด
“ไม่ครับ พี่ไม่หยุด” เสียงทุ้มซึ่งแหบพร่ากว่าปกติด้วยความต้องการ
คำว่าไม่หยุด ของขุนเขา แสดงตัวชัดเจนผ่านการกระทำต่อไปเมื่อสองมือหนากำต้นขาขาวเต็มไม้เต็มมือของขาวหอมแน่นให้โถมตัวเข้าใส่ได้ถนัด
กระชับจับแยกสองขาให้ห่างกันมากกว่าเดิมจนตนแทรกเข้าแนบชิดได้ลึกขึ้น สองขาข้าวหอมพับลง จนปลายเท้าสะกิดโดนกล้ามแขนแกร่งของขุนเขาทุกครั้งที่คนตัวโตถาโถมแรงเข้าใส่
ส่วนปลายร้อนจัดกระแทกลึกโดนจุดไวต่อความรู้สึกจนข้าวหอมร้องครางเสียงสั่นลั่นห้อง มันร้ายกาจพอกับที่ผนังอุ่นร้อนบีบคั้นขุนเขาแน่นทุกครั้งที่กดย้ำเข้าเสียดสีจนเสียงทุ้มครางฮึมอย่างไม่ปิดบัง
ให้ทั้งร่างกายและจิตใจของเราทั้งคู่รู้สึกมากไม่ต่างกัน
“อ๊ะ อะ พอ พอ อะ พี่ขุน พอ” ข้าวหอมร้องระงมเพราะมันเสียว จุกเกินไปจนน้ำตาคลอ แล้วมันก็กำลังมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแปลกประหลาดเกินรับมือไหว จนอยากให้หยุดลงก่อน
มันยิ่งกว่าตอนที่จูบกัน เหมือนมีพลุแตกอยู่อก เหมือนกำลังเล่นรถไฟเหาะ แล้วข้าวหอมก็รักชิงช้าสวรรค์มากกว่ารถไฟเหาะมาตลอดชีวิต
“อะ พอ พอก่อน อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” ทว่ายิ่งบอกพอ ขุนเขาก็ยิ่งขยับสะโพกออกห่างและกดย้ำเข้าไปลึกขึ้น แรงขึ้น ตามจังหวะคำโวยวายของคนตัวเล็ก
“ไม่ ไม่ …อึก ไม่ไหว” ข้าวหอมแทบร้องไห้ เมื่อรู้สึกว่าทุกอย่างมันเอ่อล้นและในขณะเดียวกันก็เหมือนถูกแย่งชิงไปหมดจนต้องการความชุ่มชื้นมาเติมเต็ม
ผ้าปูที่นอนถูกดึงรั้งมากเกินไปจนขอบที่ยึดกับฟูกนอนร่นหลุดออกมา ทว่ายามนี้ไม่มีใครสนใจมัน
มือผอมที่กำขยุ้มผ้าปูมาตลอดผวาคว้าจิกฝ่ามือกำลังขย้ำก้นตัวเองอยู่ เมื่อรู้สึกว่ามันถึงที่สุดแล้ว
ร่างกายผอมบางของข้าวหอมสั่นระริกแม้กำลังกระตุกเกร็ง ความเสียวจุกแน่นไปทั้งช่องท้อง มันลามขึ้นมาถึงอกและแล่นริ้วไปทั่วปลายนิ้วและปลายเท้าที่จิกเกร็งของข้าวหอม ขุนเขาสูดปากกับแรงบีบรัดที่มากมาย ทำให้ตนปลดปล่อยความปรารถนาเข้าไปในตัวข้าวหอมจนชุ่มฉ่ำ
“….” ฟันคมของข้าวหอมขบริมฝากตัวเองเต็มแรง เพราะความรู้สึกประหลาดที่กระฉอกเข้ามาจนเต็มท้องน้อย มันยิ่งทำให้เสียวกว่าเก่าจนจะบอกเล่าให้คนตัวโตฟังก็ยังพูดไม่ออก
มันเจ็บ มันจุก มันเสียว แต่ความรู้สึกตอนที่ทั้งร่างเกร็งกระตุกมันก็สุดยอดมาก ๆ โดยเฉพาะเมื่อมีจูบของพี่ขุนเขาย้ำอยู่ตรงแนวกระดูกไหปลาร้าและแอ่งชีพจรไม่ห่าง
เป็นครั้งแรก ที่ข้าวหอมรู้สึกชื่นชอบรถไฟเหาะยิ่งกว่าสิ่งใด
ข้าวหอมกลับมาระบายลมหายใจร้อน ๆ อีกครั้งทั้งที่ไม่รู้ตัวว่ากลั้นหายใจไปตอนไหน น่าจะไม่พ้นตอนที่พ่นของเหลวสีขาวออกมาจนเลอะเทอะหน้าท้องของตัวเอง
“พี่รักหอมนะครับ รักมากเลยรู้ไหม”
เป็นช่วงเวลาที่คำหวานฟุ้งกระจายราวกับในความฝัน แต่เพราะได้ยินมันจริง ๆ เลยทำให้ข้าวหอมยิ่งมีความสุข
ลมหายใจของคนเด็กกว่ารดรินลงบนผิวแก้มของขุนเขาเมื่อใบหน้าหล่อเหลาอยู่ห่างไม่ถึงสามเซ็น
“หนูรักพี่ขุน รักที่สุดไม่แบ่งใครทั้ง ทั้งนั้น” ข้าวหอมหายใจหอบยามเอ่ยบอก เลยโดนฟัดจูบที่ปากอิ่มสีสวยด้วยความมันเขี้ยวอีกที
ปลายจมูกโด่งแตะลงปลายจมูกรั้นของเด็กดื้อ ดวงตาเรียวคมอยู่ใกล้มาก ๆ และมันก็กำลังจดจ้องเข้ามาในดวงตากลมโตของข้าวหอมไม่ห่างไปไหน
“รู้สึกถึงพี่ไหม”
ขุนเขาหมายถึงส่วนไวต่ออารมณ์ที่กำลังเบียดแนบกับก้นนุ่มเด้งของคนตัวผอมในอ้อมกอดตน
ครั้งแรกของเรา
“หนู หนูว่ามันใหญ่ไปหน่อย” ข้าวหอมสารภาพตามตรงเสียงแหบแห้งหมดแรง ขุนเขาหัวเราะในลำคอ
“ทำความรู้จักกันแล้ว ไม่ชอบกันหน่อยเหรอ” ตอนมือนิ่ม ๆ ของข้าวหอมจับ ขุนเขารู้สึกตั้งมากมาย
“ใคร ใครว่าหนูไม่ชอบ แค่ แค่ไม่ชิน บ่อย ๆ เดี๋ยวหนูก็เคย เหมือนท่องสูตรคูณไง ท่องทุกวันหนูก็จำได้”
บ๊าเอ๊ย ขุนเขาสบถในใจกับความน่ารักของเมียตัวเอง ตอนแรกว่าจะทบต้นทบดอกครั้งที่สองไปไว้วันหลัง ช่างมันเหอะแม่ง
“งั้นหนูมาทำความคุ้นเคยกันอีกทีเลยดีกว่านะครับ”
“หะ หือ หนู หนู” ข้าวหอมทำหน้าตาตื่น ถึงจะชอบ แต่มันก็ยังทั้งเจ็บทั้งจุก แล้วก็ร้อนไปหมดอยู่เลยนะ
“หนูจะได้ชินไว ๆ ไง” ขุนเขายันมือไว้ข้างแก้มยองข้าวหอมกดจนมันยุบลงไป
ครั้งนี้ขุนเขาอยากจ้องมองใบหน้าน่ารัก ๆ ของข้าวหอมที่กำลังยั่วกันตอนมีอารมณ์สุด ๆ ให้เต็มตา
ขณะที่มือหนาอีกข้างจัดแจงให้สะโพกอวบเกยอยู่บนตักตัวเอง จับจ่ออะไรใหญ่ ๆ ที่ข้าวหอมยังไม่คุ้นเคยให้วนอยู่หน้าปลายทางสีสวยที่แดงจัดจากหนแรก แต่ของเหลวสีขาวขุ่นซึ่งไหลไปตามเรียวขาขาวของข้าวหอมน่าจะช่วยทำให้ทุกอย่างสอดลึกได้ไวขึ้นเมื่อร่วมมือกับเจลหล่อลื้น
“นะครับหนู”
ข้าวหอมเคยปฏิเสธอะไรพี่ขุนได้ที่ไหน (ยกเว้นไล่หนูไปไกล ๆ ตอนที่พี่ขุนยังปากแข็งยิ่งกว่ากำแพงบ้าน)
แล้วมาขอกันเสียงนุ่ม ตาคมหยาดเยิ้ม คู่กับรอยยิ้มหล่อ ๆ ชวนใจละลาย หนูหอมมีร้อยชีวิตก็จะพลีกายให้พี่ขุนไปจนหมดเลย
“อื้อ …แต่ครั้งนี้เบา ๆ กับหนูหน่อยนะจ๊ะพี่ขุน” ถึงจะเต็มใจแต่ก็อ้อนขอต่อรองเสียหน่อย
ขุนเขายิ้มกว้าง
“ขอบคุณครับที่รัก”
ทว่าไม่ได้ตอบรับคำขอ ..ที่มั่นใจว่าตัวเองจะทำไม่ได้
ร่างสูงขยับตัวเล็กน้อย ช้อนสะโพกอวบของเด็กดื้อที่วันนี้แสนว่าง่ายขึ้นสูงมากพอให้ตนก้มลงจูบลงบนส่วนปลายไวต่อความรู้สึกของข้าวหอมได้
จูบที่ทำให้ข้าวหอมยิ่งใจเต้นโครมคราม ลิ้นร้อนตวัดเลียมันเบา ๆ ยามที่ดวงตาคมดุดันกำลังจ้องมองตาของข้าวหอม ภาพแบบนั้นมันทำเอาร่างผอมทั้งเขินทั้งเห่อร้อนมากกว่าเดิม
มือหนาพาสะโพกผายลดต่ำลงเป็นช่วงไล่เลี่ยกันกับที่กดส่วนหัวร้อนใหญ่ของจนจมหายเข้าไปในร่างผอม และกดย้ำเข้าไปจนสุดในครั้งเดียว
“อื้อ พี่ พี่ขุน” ข้าวหอมเรียกเสียงสั่น ขุนเขาจัดท่าทางให้ถนัดมากขึ้น จับสองขาขาวให้ตั้งชันยันพื้นเตียงหนีบข้างสะโพกตัวเองไว้ ในขณะที่เคลื่อนตัวทาบทับอยู่เหนือคนตัวเล็กบนเตียงมากขึ้น
สองมือหนากดยันไว้ข้างตัวผอม พอขุนเขาเริ่มขยับ สองแขนของข้าวหอมก็คว้ากอดแผ่นหลังกว้างไว้จนแน่น
ครั้งนี้เล็บสั้นกุดของข้าวหอมได้ทิ้งรอยจารึกไว้บนผิวของขุนเขาไม่ต่างจากร่องรอยสีสวยละลานตาบนผิวขาวของข้าวหอม
ครั้งนี้ทุกอย่างเป็นไปได้คล่องตัวกว่าครั้งแรงมากนัก ความคับแน่นบีบรัดมันสะดวกขึ้นมากจากน้ำสีขาวขุ่นที่ให้เสียงเฉอะแฉะฟังดูลามกในทุกการขยับ
ในเมื่อหนนี้ข้าวหอมเริ่มคุ้นชินทั้งร่างกายและความรู้สึก ขุนเขาก็ใส่ไม่ยั้ง หมดสิ้นการอดทน
“อ๊ะ ขุน พี่ อ๊ะ พอ อะ พอก่อน” ข้าวหอมเองก็ยังรู้สึกได้ว่ารอบสองนี้พี่ขุนดุกว่ารอบแรกมาก ทั้งขยับเร็วขึ้น ทั้งกระแทกเข้ามาแรงมากขึ้น ไม่ผ่อน ไม่ช้า ไม่มียับยั้งชั่งใจอะไรเลยจนข้าวหอมน้ำตาหยด
น้ำตาจากส่วนผสมทั้งเสียวทั้งเจ็บ ทั้งจุก แต่ก็สนุกจนใจเต้นโครมคราม
“หอม …อาา หอมครับ” เสียงแหบสั่นยิ่งเรียกข้าวหอมก็ยิ่งใจสั่น พี่ขุนเป็นคนเสียงเพราะ ข้าวหอมชอบเสียงพี่ขุนที่สุด ตอนดุก็ยังชอบ ตอนนี้มีหรือจะไม่ชอบ
“ฮึก พี่ขุน” เสียงของข้าวหอมที่ว่าดังก็ยังแพ้เสียงเตียงที่ลั่นเอี๊ยด ๆ เสียงเบียดเสียดของเนื้อผ้ากับกายมนุษย์รวมเสียงดังของเนื้อกระแทกเนื้อ เจือปนกลิ่นเหงื่อกลิ่นกายแบบตอนที่พี่ขุนเขาเพิ่งกลับจากทำงาน เป็นกลิ่นสุดโปรดที่ข้าวหอมชอบ
มันเป็นความทรงจำที่จะฝังลึกอยู่ในใจของหนุ่มน้อยอายุยี่สิบปีกับอีกสามวันไม่รู้ลืม
ขุนเขารู้ดีว่าตัวเองรุนแรงขึ้นกว่าหนแรกมากแต่ก็ห้ามไม่อยู่ ได้แต่ตามใจตัวเองให้ถึงที่สุด มือหนาดึงยึดสะโพกอวบไว้ไม่ให้ส่ายหนี มืออีกข้างขย้ำเนื้อนุ่มนิ่มอย่างมันเขี้ยว ควบเอวกระแทกเข้ากระชั้นขึ้นอีกหน่อย สาวออกห่างขึ้นอีกนิดและกดกระแทกย้ำเข้าไปลึกขึ้น
ซ้ำแล้วซ้ำอีก ถี่ขึ้น แรงขึ้น
“อื้อ อือ” ร่างน้อยที่เริ่มดิ้นพล่านไปมาเพราะอารมณ์ร้อนแรงซึ่งถูกปลุกเร้ามากเกินไป
เหยียดเกร็งตัวจนแผ่นหลังลอยขึ้นจากที่นอน ฟันคมขบเข้ากับหัวไหล่ของขุนเขาเต็มแรงระบายอารมณ์ที่พุ่งทะยานขึ้นในตัว เหมือนที่ขุนเขากระแทกเข้าใส่ความตอดรัดแน่น อีกสองหนก่อนจะปลดปล่อยทั้งหมดเข้าไปในร่างผอมของข้าวหอม
กลับไปอ่านต่อที่เด็กดีจ้า
https://writer.dek-d.com/poisonmoon/writer/viewlongc.php?id=1911180&chapter=17